วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คปภ.สั่งเกาะติดส่งเสริม ประกัน


คปภ.สั่งเจ้าหน้าที่เกาะติดความเคลื่อนไหวทางบัญชี "ส่งเสริมประกันภัย"อย่างใกล้ชิดล่าสุดส่งคนเข้าไปตรวจสอบฐานะที่แท้จริงหวั่นอาจมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกนอกกิจการ "ประเวชองอาจสิทธิกุล" ระบุยังไม่ได้รับการชี้แจงข้อมูลทางบัญชีกรณีการลงบัญชีรายรับหลังขีดเส้น 30 วันเผยยังอยากให้โอกาสกิจการกลับมาดำเนินธุรกิจตามปรกติหากสามารถเคลียร์ปัญหาด้านบัญชีเรียบร้อย
จากการเปิดเผยของนายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวกับ "ตลาดวิเคราะห์" ถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาของ บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด ว่า ภายหลังจากที่คปภ.ได้ประกาศระงับการดำเนินธุรกรรมชั่วคราวเพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหารของ บริษัท ส่งเสริมประกันภัย ได้มีการชี้แจงและแสดงข้อมูลทางบัญชีให้ถูกต้องกับความเป็นจริง โดยได้ให้เวลา 30 วัน หลังการประกาศระงับการดำเนินธุรกิจชั่วคราว นั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางบริษัท ส่งเสริมประกันภัย ยังไม่ได้มีการ แสดงหลักฐานบัญชีลูกค้าให้แก่ทางสำนักงานคปภ.แต่อย่างใด โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่เพื่อไปดูแลสถานะทางการเงินของบริษัทฯ เพื่อรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งในแต่ละมาตรการที่ทางการดำเนินการไป ทางคปภ.จะดำเนินการเท่าที่จะเป็น
"เราหวังว่าบริษัทฯ อาจจะปรับระบบการประกอบธุรกิจให้กลับสู่มาตรฐาน หรือดำเนินธุรกิจได้เช่นเดิม ตอนนี้เพียงสั่งห้ามขยายธุรกิจเท่านั้น ส่วนลูกค้าเดิมก็ยังได้รับความคุ้มครองต่อไป ทางเรายินดีที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อให้กิจการสามารถดำเนินไปได้เหมือนเดิม" นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคปภ. กล่าวกับ "ตลาดวิเคราะห์"
อย่างไรก็ตาม ในการเปิดโอกาสให้กิจการสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้เหมือนเดิมนั้น จำเป็นจะต้องมีการแสดงข้อมูลหรือหลักฐานในการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามมาตรฐานทางบัญชี โดยเฉพาะกรณีการลงบัญชีเบี้ยรับประกันภัยรถยนต์ประเภทที่เป็นไปโดยสมัครใจ เป็นที่คาดว่า ทางคปภ.จะมีการส่งเจ้าหน้าทีเข้าไปตรวจสอบกับ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งหลาย ซึ่งหมายถึง อู่กลาง หรือ บริษัทโบรก เกอร์ ที่ทำหน้าที่จำหน่ายกรมธรรม์ให้กับบริษัท ส่งเสริมประกันภัย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการรับรู้รายได้ของบริษัทมากกว่านี้
"หากการแก้ปัญหา ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายบริหาร ก็จะทำให้ปัญหาจบเร็วขึ้น ทั้งนี้เท่าที่ทราบ ไม่เพียงแต่ปัญหาเรื่องการลงบัญชีโดยใช้เกณฑ์เงินสด ที่ผู้สอบบัญชีไม่รับรองงบการเงินเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาในเรื่องกรมธรรม์ประกันภัยที่ขายออกไป กับจำนวนเบี้ยประกันภัยที่ได้รับ ไม่สอดคล้องกัน ซึ่งเรื่องนี้ทางคปภ.ได้มีการสั่งการให้ทาง
บริษัทฯ เร่งดำเนินการโดยจัดให้มีระบบควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ มีการควบคุมการจัดส่งกรมธรรม์ประกันภัยไปสู่สาขา และตัวแทน รวมทั้งนายหน้าประกันภัย อย่างรวดเร็ว" แหล่งข่าวกล่าว
พร้อมกับเปิดเผยว่า สิ่งที่คปภ.ตรวจสอบพบ จะเห็นว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัท ส่งเสริมประกันภัย
มีความล่าช้าในการส่งกรมธรรม์แก่ลูกค้า ซึ่งแลดูเหมือนกับเป็นการรับเบี้ยประกันมาล่วงหน้า แต่ไม่ส่งกรมธรรม์ให้ ซึ่งถ้าการดำเนินธุรกิจในลักษณะนี้ หากปล่อยให้มีการดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการควบคุมหรือ ดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของคปภ. ก็อาจจะส่งผลเสียหายต่อประชาชนผู้เอาประกัน
ดังนั้นตรงนี้จึงเป็นเหตุผลอีกประการหนึ่ง ที่ทางคปภ.จำเป็นจะต้องมีการสั่งระงับการขายกรมธรรม์แก่ประชาชน ซึ่งสิ่งที่ทางคปภ.ดำเนินการอยู่เพียงแต่ต้องการให้กิจการดำเนินธุรกิจไปอย่างโปร่งใส
"ถ้าธุรกิจทำอย่างตรงไปตรงมา เป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ เราก็คงไม่เข้าไปทำให้กิจการสะดุด เนื่องจากจะทำให้ภาพพจน์ของกิจการเสียหาย แต่ถ้าหากไม่เข้าไปดำเนินการอะไรเลย ก็เท่ากับว่าคปภ.หย่อนยานในด้านการกำกับและดูแล เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีอะไรที่เสียหายร้ายแรง ทางเราก็คงจะต้องปล่อยให้กิจการเขาดำเนินการไปตามปรกติ ซึ่งเรายังคงให้เวลาอีกประมาณ5-6 เดือนในการ แก้ไขระบบการบริหารและระบบบัญชี" แหล่งข่าวจากคปภ.กล่าว
ที่มา:นสพ.ตลาดวิเคราะห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น