กว่าสองทศวรรษที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535
มีผลใช้บังคับ
ทำให้ประเทศไทยมีการใช้บังคับสำหรับการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
ที่บังคับให้เจ้าของรถหรือผู้ใช้รถทุกคนต้องทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ การประกันภัย พ.ร.บ.
ความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. นี้
แยกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นความคุ้มครองที่เรียกว่า “ค่าเสียหายเบื้องต้น”
ซึ่งถูกกำหนดตามกฎหมายให้มีความคุ้มครอง
สำหรับค่ารักษาพยาบาลผู้ประสบภัยไม่เกิน คนละ 15,000 บาท และค่าปลงศพ
กรณีผู้ประสบภัย เสียชีวิต คนละ 35,000 บาท
ค่าเสียหายเบื้องต้นใน
ส่วนนี้กฎหมายกำหนดให้บริษัทที่รับประกันภัยต้องชดใช้ให้แก่ผู้ประสบภัยที่
เกิดจากรถคันที่ทำประกันภัยไว้
หรือแก่ทายาทของผู้ประสบภัยที่ได้รับอันตรายแก่ชีวิตภายใน 7
วันนับแต่ได้รับการเรียกร้องโดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่าย
ถูก ตามหลักของการประกันภัยค้ำจุนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แต่อย่างใด
ทั้งนี้
เพื่อให้การคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับมีผลในการช่วย
บรรเทาผลร้ายจากการเกิดอุบัติเหตุจากรถได้อย่างรวดเร็ว และ
ทำให้เกิดความมั่นใจกับทุกส่วน ทุกองค์กร ที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง
สำหรับ
ความคุ้มครองในส่วนที่สอง
กำหนดเป็นค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บ
จำนวนไม่เกินคนละ 50,000 บาท
และค่าชดเชยกรณีที่ผู้ประสบภัยรายนั้นต้องพักรักษาตัวในสถานพยาบาลโดยลง
ทะเบียนเป็นคนไข้ในอีกวันละ 200.-บาท ไม่เกิน 20 วัน
ถ้าหากผู้ประสบภัยได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
ทายาทจะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์คนละ 200,000 บาท
ในการชดใช้
ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนี้ถือว่าค่าเสียหายส่วน
แรกเป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์
เมื่อมีการชดใช้ค่าเสียหายส่วนแรกไปแล้ว
เมื่อจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ก็จะหักเงินค่าเสียหายส่วนแรกออกไป
ก่อน แล้วจึงชดใช้ค่าสินไหมทดแทนส่วนที่เหลือให้กับผู้ประสบภัย
หรือทายาทของผู้ประสบภัยแล้วแต่กรณี
ที่กล่าวมายืดยาวทั้งหมดนี้ผมมี
เจตนาที่จะปูพื้นให้ทุกท่านเข้าใจกับกรมธรรม์
ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับของประเทศไทยโดยสังเขปเท่านั้น
เพราะสิ่งที่อยากจะกราบ
เรียนท่านผู้อ่านทุกท่านในวันนี้เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
ซึ่งถือเป็นมิติใหม่สำหรับการชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้น
ด้วยการเปิดใจกว้างของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีผลให้เกิดความ
สะดวกรวดเร็วในการขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นของผู้ประสบภัยเป็นอย่างยิ่ง
นับ
ตั้งแต่ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัย พ.ศ.2535 ใช้บังคับการจ่ายค่าเสีย
หายเบื้องต้น
สำหรับรถที่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับไว้ถูกกำหนดให้เป็นหน้า
ที่ของบริษัทที่รับประกันภัยที่จะต้องจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นภายใน7
วันนั้น แต่ได้ รับการร้องขอโดยไม่ต้องรอผลการพิสูจน์ความรับผิดแต่อย่างใด
ต่อมาได้มีการแก้ไข
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถ
ยนต์ ทุกบริษัทร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
เพื่อให้เป็นบริษัทที่ดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยรถ
ยนต์ภาค บังคับให้แก่ผู้ประสบภัย
โดยให้มีการบริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
ดังนั้นการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับบริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถยนต์
ภาคบังคับไว้ จึงสามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที โดยการจัดการของบริษัท
กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
แต่เนื่องจากรถที่วิ่งอยู่บนถนน
ทุกคันไม่ได้มีการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. ทุกคัน
รวมไปถึงรถที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำประกันภัย เช่น รถราช การ หรือ
รถยนต์ทหาร เป็นต้น รถยนต์เหล่านี้เมื่อเกิดอุบัติเหตุมีผู้ประสบภัยไม่ว่า
บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จำเป็นที่จะต้องมีผู้รับผิดชอบในเบื้องต้น
เพื่อให้สอดคล้อง กับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
ดังนั้น
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจึงกำหนดให้จัดตั้งกองทุนคุ้มครองผู้
ประสบภัยจากรถ พร้อมๆ
กับที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถมีผลบังคับ
โดยกำหนดให้กองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้
ประสบภัย หรือทายาทผู้ประสบภัยแล้วแต่กรณี
ผู้ที่ดูแลและทำหน้าที่จ่ายเงินของกองทุน นี้ คือ
หน่วยงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
ประกันภัยทั่วประเทศ
ดังนั้น การชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้น
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
จึงแยกกันเป็นสองส่วนโดยกำหนดให้ผู้ประสบภัยจากรถ
ที่ทำประกันภัยไว้รับค่าเสียหายเบื้องต้นจากบริษัทที่รับประกันภัย
หรือรับจากบริษัท กลางคุ้ม ครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
แล้วแต่ความสะดวกของผู้ประสบภัย
แต่สำหรับผู้ประสบภัยจากรถที่ได้มีประกันภัยจะต้องรับค่าเสียหายเบื้องต้น
จากกองทุนทดแทน ผู้ประสบภัยเท่านั้น แต่นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2555
กองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ
ได้ปรับปรุงระเบียบการชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นในส่วนของค่ารักษาพยาบาล
โดยได้มอบหมายให้ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
สามารถชดใช้ค่ารักษาพยาบาลในส่วนของค่าเสียหายเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัย
หรือสถาน
พยาบาลที่มีสิทธิ์ขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นได้แทนผู้ประสบภัยได้แล้ว
แต่สำหรับค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีเสียชีวิต
ทายาทผู้ประสบภัยยังคงต้องไปขอรับจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย เช่นเดิมนะครับ
ผล
จากการปรับปรุงระเบียบนี้ของกองทุนคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
เชื่อว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวก
และทำให้เกิดความมั่นใจในระบบการประกันภัยภาคบังคับได้อย่างมากมายนะครับ
คงต้องมาดูผลการประเมินกันต่อไปว่าเป็นอย่างไร
ที่มาสยามธรุรกิจ
เรื่องของ พ.ร.บ.