เรื่องปวดหัวที่สุดของผู้ใช้รถ คือ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ต้องมายืนเถียงกับคู่กรณีกลางแดดเปรี้ยง
แน่นอนว่า ไม่มีใครอยากเจอเรื่องแบบนี้ ดังนั้น
การมีประกันภัยรถยนต์เพื่อลดความยุ่งยาก จึงเป็นเหตุผลแรกๆ ของหลายคน
และก็ทำให้หลายคนเลือกประกันภัยประเภท 1
เพราะเชื่อว่าจะได้รับการดูแลระดับเฟิร์สต์คลาส
แต่ในสถานการณ์จริง เมื่อประกันมาถึง อาจจะมีความยุ่งยากก็ได้ ถ้าผู้ขับขี่นั้นไม่มีความพร้อมในเรื่องคุณสมบัติ
เรื่องที่ไม่ซับซ้อน แค่ขับรถชนกัน ก็เรียกตัวแทนเคลมประกันมาคุย ก็น่าจะจบ แต่มาลองดูว่า ปัญหานั้นอยู่ที่ตรงไหนได้บ้าง
ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป...ใช่ครับ
ก็คนขับรถนั้นต้องมีใบอนุญาตและกรมขนส่งทางบกออกให้เฉพาะคนที่อายุถึงเกณฑ์
18 ปี แต่ทุกวันนี้ ท่านเคยมองไปรอบข้างยามอยู่หลังพวงมาลัยหรือไม่
เด็กหนุ่มสาวหน้าตาละอ่อน บางคนผมเกรียนแบบนักเรียน ม.ต้น
ดูอย่างไรก็ไม่มีทางอายุ 18 ปี แต่พ่อแม่ก็ปล่อยให้ขับรถออกมาห้าง
หรือไปเที่ยวทะเลดูคอนเสิร์ตริมหาด
ตรงนี้สร้างความยุ่งยากให้ประชาชนที่ใช้ถนนร่วมกันมาก ผิดกฎหมาย
ประกันถือว่าโมฆะ ความสูญเสียมากมายที่ตามมา
และอาจนำไปสู่การคอร์รัปชันหลายรูปแบบ
เรื่องต่อมาที่ต้องใส่ใจ คือ ในการคำนวณเบี้ยประกันภัยชั้น 1
และ 2 ค่าเบี้ยประกันภัยจะสัมพันธ์กับวงเงินทุนประกันภัยรถของคุณเป็นหลัก
เช่น ทุนประกันภัยรถสูง = ค่าเบี้ยแพง ดังนั้น
เมื่อพบอัตราเบี้ยที่แตกต่างกันให้สังเกตดูว่าทุนประกันภัยและความคุ้มครอง
อื่นๆ ที่สูงกว่านั้นคุ้มค่าตามความต้องการหรือไม่
บริษัทประกันภัย
จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้น
ในกรณีที่ผู้ขับขี่ดื่มเหล้าและเกิดอุบัติเหตุ...โปรดอ่านอีกครั้งหนึ่ง
และพึงสังวรไว้ให้มากเรื่องนี้
การนำรถที่ถูกชนมาก่อนมาทำประกันภัย
โดยไม่เปิดเผย ถือเป็นการหลอกลวง
บริษัทประกันภัยมีสิทธิไม่รับประกันภัยรถของคุณ
หรือหากตรวจพบในภายหลังให้ถือว่าสัญญาเป็นโมฆียะ หรือไม่สามารถนำมาใช้ได้
ความคุ้มครองการประกันภัยรถยนต์ จะคุ้มครองเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
โดยทั่วไป บริษัทประกันภัยจะไม่รับประกันภัยรถที่มีการโหลด ตกแต่ง หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์
บริษัทประกันภัยจะไม่คุ้มครอง ในกรณีนำรถไปใช้ผิดประเภท เช่น นำรถยนต์นั่งส่วนบุคคลนำไปใช้รับจ้าง
...เมื่อเกิดเหตุคุณควรทำอย่างไร
แจ้งอุบัติเหตุทันทีต่อบริษัทประกันภัยตามหมายเลขโทรศัพท์ที่บริษัทประกันภัยให้ไว้ มักจะให้มาในรูปแบบของสติกเกอร์ติดกระจกหน้ารถ
เมื่อ
เจ้าหน้าที่บริษัทดำเนินการสำรวจความเสียหายแล้ว จะให้ใบรับแจ้งเหตุไว้
นำเอกสารดังกล่าวไปให้บริษัทประกันภัยคุมราคาทรัพย์สินที่เสียหายก่อนทำการ
ซ่อม หลังจากนั้น นำรถเข้าซ่อมกับอู่ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น